1. (Distance Education)
การศึกษาทางไกล
เนคเทค (2545) กล่าวว่าการจัดการศึกษาทางไกลเป็นการจัดการเรียนการสอน
โดยใช้สื่อต่างๆ เน้นการศึกษาด้วยตนเอง
ผู้เรียนเป็นผู้กำหนดเวลาศึกษาหาความรู้จากสื่อต่างๆ ที่หลากหลายด้วยตนเอง
กำหนดสถานที่เรียนเอง กำหนดเวลาหยุดพักเอง นับว่าเป็นการจัดการศึกษาตลอดชีวิต
ซึ่งหัวใจสำคัญในการเรียนระบบนี้ ก็คือ สื่อต้องมีหลากหลาย
และมีการจัดเตรียมอย่างเป็นระบบ ต้องอาศัยนวัตกรม
และเทคโนโลยีทางการศึกษาที่เหมาะสมมาช่วยเสริม
รูปแบบการศึกษาทางไกล
DLRN Research Associate (1995) กล่าวว่ารูปแบบการศึกษาทางไกลมี 2 รูปแบบ คือ ซิงโครนัส (synchronous) และ
อะซิงโครนัส (asynchronous)
1. รูปแบบซิงโครนัส เป็นรูปแบบที่ต้องการการเข้าร่วมพร้อมกันในบรรดาผู้เรียนและผู้สอนทั้งหมด
ต้องมีการนัดเวลา สถานที่ และบุคคล ประโยชน์ของรูปแบบซิงโครนัสก็คือปฏิสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นในเวลาเดียวกัน
รูปแบบซิงโครนัสได้แก่ Interactive
TV audiographics, computerconferencing, IRC และ MOO
2. รูปแบบอะซิงโครนัส เป็นรูปแบบที่ไม่ต้องการการเข้าร่วมพร้อมกันในบรรดานักเรียน
และผู้สอน นักเรียนไม่ต้องรวมกลุ่มในสถานที่เดียวกันและเวลาเดียวกัน นักเรียนอาจจะเลือกช่วงเวลา และวัสดุการเรียนการสอนด้วยตัวเอง
แล้วจัดตารางเวลาของตัวเอง รูปแบบอะซิงโครนัสยืดหยุ่นกว่ารูปแบบซิงโครนัส
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในกรณีของการติดต่อสื่อสารเช่นเดียวกันกับอีเมล์
รูปแบบอะซิงโครนัสยอมและสนับสนุนการพัฒนากลุ่มชน รูปแบบของการส่งพร้อมกับอีเมล์ listservs, บทเรียนเทปเสียง บทเรียนวิดิทัศน์ บทเรียนทางไปรษณีย์ และ บทเรียนทางเว็บ (แม้ว่าในอนาคตระบบเวบจะเป็นไปได้มากในการใช้รูปแบบซิงโครนัส) ประโยชน์ของการศึกษาทาง ไกลรูปแบบอะซิงโครนัสคือ
ทางเลือกของผู้เรียนในเรื่องสถานที่และเวลา
และมีโอกาสปฏิสัมพันธ์กับนักเรียนทั้งหมด
ส่วนข้อจำกัดก็คือปฏิกิริยาสัมพันธ์นั้นขึ้นอยู่กับการใช้อีเมล์ซึ่งต้องอาศัยการเขียนในการติดต่อแลกเปลี่ยนกัน การศึกษาทางไกลในประเทศไทย
เชาวลิต
ตนานนท์ชัย (2546: 33-36) กล่าวว่าการปฏิรูปการศึกษาส่งผลให้เกิดการปรับ
เปลี่ยนการศึกษาทั้งระบบนับตั้งแต่การบริหารจัดการ และการจัดการเรียนการสอน
ในส่วนของการบริหารจัดการนั้น เน้นให้มีการกระจายอำนาจให้เขตพื้นที่การศึกษา
เพื่อตอบสนองการจัดการศึกษาของเขตพื้นที่ มาตรา 37
ได้กำหนดว่ากระทรวงอาจจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานดังต่อไปนี้
เพื่อเสริมการบริการและจัดการของเขตพื้นที่การศึกษาได้
การศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม
ท่านขวัญแก้ว วัชโรทัย
รองเลขาธิการพระราชวังฝ่ายกิจกรรมพิเศษ ประธานกรรมการบริหารมูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม
ได้กล่าวถึงมูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม ซึ่งจัดตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2538 เพื่อร่วมเฉลิมฉลองในมหามงคลวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี (กาญจนภิเษก)
สถานีรับส่งวิทยุโทรทัศน์ที่โรงเรียนวังไกลกังวล อำเภอหัวหิน
จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
ได้แพร่ภาพออกอากาศผ่านดาวเทียมรายการโทรทัศน์เพื่อการศึกษาหลายสาขาวิชาในระดับมัธยมศึกษาปีที่
1 ถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6 วิทยาลัยการอาชีพวังไกลกังวลรองรับในหลักสูตรวิชาชีพแขนงต่าง
ๆ เช่น คหกรรมศาสตร์ ช่างยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ และคอมพิวเตอร์ เป็นต้น
และสถาบันเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตวังไกลกังวล
ก็เปิดรับนักศึกษาเพื่อศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาอีกด้วย
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
พระราชทานพระราชทรัพย์จำนวน 50 ล้านบาท
ที่องค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทยทูลเกล้าฯ ถวาย
เพื่อเป็นทุนประเดิมก่อตั้งเป็นมูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียมขึ้น
และหลังจากนั้นองค์กรต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน
ได้ร่วมโดยเสด็จพระราชกุศลอย่างพร้อมเพียง นอกจากนี้ยังพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้โรงเรียนวังไกลกังวล
ร่วมกับมูลนิธิฯ ถ่ายทอดสดกิจกรรมการเรียนการสอนวิชาต่างๆ
ในชั้นเรียนระดับมัธยมศึกษาแพร่ภาพทางโทรทัศน์ทั้ง 6 ช่อง
นับเป็นการนำเอาเทคโนโลยีสมัยใหม่
มาช่วยในการขยายโอกาสทางการศึกษาให้แก่นักเรียน ไม่ว่าร่ำรวยหรือยากจนในทุกภูมิภาคของประเทศได้อย่างทั่วถึง
และเท่าเทียมกัน อีกทั้งเป็นการช่วยบรรเทาปัญหาการขาดแคลนบุคลากรครูผู้สอน
โดยเฉพาะในสาขาวิชาภาษาต่างประเทศ วิทยาศาสตร์
และคณิตศาสตร์ในโรงเรียนชนบทห่างไกลอีกด้วย
ทั้งนี้การติดต่อสื่อสารระหว่างโรงเรียนวังไกลกังวล กับโรงเรียนปลายทาง (Distance
Schools) ในพื้นที่ต่างๆ จะมีลักษณะของการโต้ตอบ
หรือเป็นการสื่อสารแบบสองทาง (Interactive Communication) ในกรณีของการสอบถามปัญหาหรือคำถามต่างๆ
การศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม มุ่งผลด้านขยายโอกาสในเชิงปริมาณ
มีผลให้สถานศึกษาต่างๆ ที่จัดการศึกษาในระบบชั้นเรียน
มีโอกาสขยายการดำเนินงานได้ในวงกว้างมากขึ้น สามารถเข้าถึงนักเรียน
รวมทั้งประชาชนผู้สนใจใฝ่หาความรู้เพิ่มเติมในจำนวนที่เพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว ในด้านคุณภาพนั้น การศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียมก็ได้มีส่วนช่วยทำให้นักเรียนในชนบทที่ห่างไกล
มีโอกาสได้รับความรู้ และศึกษาเล่าเรียนเท่าเทียมกับนักเรียนในเมือง
รวมทั้งยังส่งเสริมการศึกษาในระบบ นอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัยอีกด้วย
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานพระราชดำรัสแก่ผู้เข้าเฝ้าฯ
ซึ่งรวมถึงคณะ กรรมการมูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2542 ณ ศาลาดุสิดาลัย
ใจความพระราชดำรัสตอนหนึ่ง
ได้พระราชทานเกี่ยวกับเรื่องการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียมว่า ... ส่วนที่ได้กล่าวถึงการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียมนั้น ก็เป็นโครงการที่มาหนุนมูลนิธิราชประชานุเคราะห์เหมือนกัน
เพราะว่าถ้าประชาชนมีความรู้ ก็หมายความว่าเด็กได้สามารถที่จะเรียนวิชาการต่างๆ
ทั้งด้านวิทยาศาสตร์ ทั้งด้านภาษาได้ดี ก็สามารถที่จะดำรงชีวิตได้ ได้ดี
ได้ดีมาก นอกจากนั้นโรงเรียนที่รายการของการศึกษาทางดาวเทียมนี้ ก็ได้พยายามที่จะให้นักเรียนมีความรู้ทางจริยธรรมด้วย
ซึ่งปัจจุบันนี้ก็บ่นกันว่า เยาวชนมักจะไม่ค่อยมีจริยธรรม ไม่ค่อยมีความดี
ความดีไม่มี เลยทำให้เกิดความเดือดร้อนทั่วประเทศ เกิดปัญหาต่างๆ
เกี่ยวข้องกับยาเสพติด เกี่ยวข้องกับการรุนแรง ความรุนแรงต่างๆ
ฉะนั้นการสอนของโครงการการศึกษาทางดาวเทียมนั้น ก็จะทำให้ราษฎรของประเทศชาติ
มีคุณสมบัติ มีคุณภาพดีขึ้น ...
สรุป
การศึกษาทางไกล
เป็นรูปแบบการจัดการเรียนการสอนที่ตอบสนองความต้องการของผู้เรียนโดยไม่มีข้อจำกัดในเรื่องสถานที่
และเวลา และสามารถบริการแก่ทุกคนที่ต้องการศึกษาเรียนรู้ด้วยตนเอง ทั้งนี้
เป็นผลมาจากกระแสการเปลี่ยนแปลงบริบทของโลกเนื่องจากโลกมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วทั้งทาง
ด้านเศรษฐกิจ การเมือง สังคมและวัฒนธรรม สิ่งแวดล้อม และเทคโนโลยี มีความรู้ใหม่เกิดขึ้นตลอดเวลาอย่างไร้ขอบเขต
เทคโนโลยีการศึกษาช่วยให้มนุษยชาติดำรงอยู่ได้และสามารถตามทันการเปลี่ยนแปลงขององค์ความรู้
มีการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการเรียนการสอน
กระจายการเรียนการสอนให้แพร่หลายอย่างกว้างขวาง เข้าถึงผู้เรียนได้ทุกที่
ทุกเวลา และตอบสนองความต้องการของผู้เรียนอย่างแท้จริง
|
2 . “Asynchronous Learning”
มิติใหม่แห่งการศึกษาไทยไร้พรมแดน
คือ
รูปแบบการเรียนการสอนที่ผู้สอน และผู้เรียนไม่จำเป็นต้องพบกันตามเวลาในตาราง
ที่กำหนดไว้ (Synchronous Learning) แต่ผู้สอนและผู้เรียนสามารถติดต่อกันได้ตลอดเวลา
โดยใช้เครื่องมือสื่อ สารต่าง ๆ
ซึ่งเป็นการเรียนรู้ที่ไม่มีข้อจำกัดในเรื่องของเวลา และสถานที่
ผู้เรียนสามารถเรียน ที่ไหน เวลาใดก็ได้ (Anywhere Anytime) เป็นการเรียนที่อาศัยวิธีการ
หรือเครื่องมือต่าง ๆ ที่ทำให้ผู้เรียน สามารถเรียนรู้ในลักษณะที่ปฏิสัมพันธ์ และมีส่วนร่วมช่วยเหลือกันระหว่าง
ผู้เรียน โดยใช้แหล่ง ข้อมูลความรู้ต่าง ๆ ทั้งใกล้และไกล
ผู้เรียนสามารถศึกษาค้นคว้า หรือเข้าถึงข้อมูลความรู้เหล่านั้น จากที่ไหน
และเวลาใดก็ได้ ตามความต้องการและความสะดวกของผู้เรียนเอง ซึ่ง Asynchronous Learning เป็นการใช้การสื่อสารระยะไกล
(Telecommunication) เพื่อช่วยให้การเรียนรู้มีลักษณะใกล้เคียงกับการเรียนในระบบห้องเรียนหรือการเรียนการสอนที่ผู้สอนกับผู้เรียนได้พบหน้ากัน
(Face – to – Face Instruction)
Asynchronous
Learning
แนวคิดเกี่ยวกับ Asynchronous Learning คือการนำความก้าวหน้าของเทคโนโลยีการสื่อสาร
และความสามารถของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ได้แก่ ระบบโทรทัศน์ ระบบเครือข่าย
คอมพิวเตอร์ รวมทั้งโปรแกรมสำเร็จรูป (Software) ต่าง ๆ
มาใช้ให้เป็นประโยชน์
เพื่อการศึกษาทำให้สามารถขจัดข้อจำกัดของการเรียนการสอนในลักษณะที่ผู้สอนและผู้เรียนต้องมีเวลาตรงกัน
ใน ลักษณะตารางสอน (Synchronous Learning) มีสถานที่ตรงกัน
อาจจะเป็นห้องเรียน หรือสถานที่ ใดที่หนึ่งจึงจะมีกิจกรรมการเรียนการสอน
ที่ทำให้ผู้เรียนมีปฏิสัมพันธ์กับผู้สอนในลักษณะ Face – to – Face โดยที่ ผู้เรียนและผู้สอน ไม่จำเป็นต้อง
มีเวลาและสถานที่ตรงกัน นั่นคือ ผู้เรียนสามารถเรียนจากที่ไหนและเวลาใดก็ได้
ตามความต้องการ ของผู้เรียนเอง โดยผ่านสื่อต่าง ๆ เช่น
·
Multimedia Computer
·
Telephone และ Computer Linking
Infrastructure
·
The Internet และ World Wide Web
·
E – Mail
·
Conference System
·
อื่น ๆ เช่น Audio –
Video
ดังนั้น Asynchronous
Learning จึงเป็นวิธีการในการจัดการเรียนการสอนที่แปลกใหม่ไปจากเดิม
สามารถนำมาใช้และปฏิบัติได้ดี
จึงเป็นนวัตกรรมหนึ่งทางการศึกษาไทยที่น่าสนใจอย่างยิ่ง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น